วันพุธที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2556

1.บล็อกของ ด.ญ. น้ำทิพย์  พงษ์รื่น

ชื่อบล็อกคือhttp://nongmookzamak.blogspot.com/

2. บล็อกของ ด.ญ. พิมพ์มาดา  สร้อยเสม

ชื่อบล็อกคือhttp://pimmada58.blogspot.com/

3. บล็อกของ ด.ญ. วิลาสินี  ลิ่มเกตุรัตน์

ชื่อบล็อกคือhttp://bewpet.blogspot.com/

4. บล็อกของ ด.ญ. กัญจน์รัชต์ เมืองดิษฐ์

ชื่อบล็อกคือhttp://bewpet.blogspot.com/

5. บล็อกของ ด.ญ. ชนกนาถ เวียงสาว

ชื่อบล็อกคือhttp://ploysweet587.blogspot.com/


วันพฤหัสบดีที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2556

นาฬิกานาโน และ ไอโฟน





                                  นาฬิกานาโน และ ไอโฟน











                                                     

        

                     ที่มาของนาฬิกา

 นาฬิการข้อมือที่มาที่น่าสนใจมาก เริ่มตั้งแต่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 เพื่อสะดวกในการดูเวลา นายทหารคนหนึ่งจึงนำนาฬิกามาผูกไว้ที่ข้อมือของเขา เมื่อขยับแขนขึ้น ก็สามารถเห็นเวลาได้อย่างชัดเจน

             ในปีพ.ศ. 1918 ช่างนาฬิกาชาวสวิตเซอร์แลนด์ที่ชื่อ จอห์น เฮาเวิร์ด สเตนเนอร์ เกิดความคิดขึ้นหลังจากได้ฟังเรื่องราวดังกล่าวจึงลงมือวิจัยอย่างละเอียด และเริ่มผลิดนาฬิกาขนาดเล็ก โดยออกแบบให้ทั้งสองด้้านมีช่องสำหรับใส่สายนาฬิกาหนังและสายนาฬิกาโลหะ ทำให้นาฬิกาสามารถข้อมือจึงถือกำเนิดขึ้นตั้งแต่นั้น




ศูนย์ซ่อมนาฬิกาแมกนาโน่

ด้วยเครื่องทันสมัย ฟรี ซ่อม เปลี่ยนอะไหล่ ล้างเครื่อง ทำความสะอาดตัวเรือน เปลี่ยนเข็ม มะยม หน้าปัด ชุบสายนาฬิกา ตัวเรือน
เปลี่ยนถ่าน รัประกัน 3ปี เปลี่ยนสายคุณภาพ ตรวจเช็คความเที่ยงตรง ตรวจเช็คการกันนำ
รับประกันการใช้งานทุกชิ้นงานโดยช่างประสบการณ์มากกว่า 20ปี
เครื่องตรวจสอบการกันน้ำรุ่นใหม่ล่าสุด Spheric ที่สามารถตรวจสอบการกันน้ำได้ตั้งแต่ -0.8Bar ถึง 10Bar
และเครื่องปรับเช็คเวลานาฬิการะบบไขลานและ Autometic Watch Matic III ที่มีใช้เฉพาะในโรงงานผลิตนาฬิกา

เราจึงมีความพร้อมที่จะให้คุณภาพการซ่อมแด่ท่านสูงที่สุด

ที่ แมกนาโน่
ด้วยประสบการณ์จากช่างผู้ชำนาญเราให้บริการซ่อมนาฬิกาที่มีความซับซ้อนที่ใช้ในนาฬิกาชั้นสูงเช่น PATEK PHILIPPE, ROLEX, OMEGA, LONGINES, TAG HEUER และ นาฬิกาอื่นๆทุกยี่ห้อ เรายินดีที่จะบริการตรวจสอบสภาพนาฬิกา ให้กับท่านฟรี โดยไม่มีเงื่อนไขและเรายังแจ้งงบประมาณ ในการซ่อมเพื่อให้ท่านตัดสินใจว่าจะ "ทำ" หรือ "ไม่ทำ" โดยเราไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น เพื่อการควบคุมคุณภาพงานที่ได้มาตราฐาน เราจึงจำ เป็นต้องรับงานของท่านส่งเข้าสำนักงานใหญ่ที่มีเครื่อง มือที่พร้อมและสามารถแจกจ่ายงานนาฬิกาของท่านให้ เหมาะกับประสบการณ์และความสามารถของช่างที่มี ความเชี่ยวชาญในแต่ละงานและยี่ห้อเฉพาะ งานนาฬิกาเป็นงานที่ต้องใช้ความละเอียดและความรอบ คอบฉะนั้นเราจึงไม่สามารถให้บริการภายในระยะเวลา อันสั้น ด้วยขั้นตอนที่ละเอียดซึ่งต้องผ่านการตรวจสอบ จากเครื่องที่ทันสมัย เพื่อช่วยให้ช่างของเราสามารถ วินิจฉัยและแก้ปัญหาได้ตรงจุดและแม่นยำ ทำให้ท่านไม่ ต้องเหนื่อยกับการที่ต้องซ่อมเพิ่มเติมหรือแก้ปัญหาไม่ ขาด เสียค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นและเสียเวลา

 “แมกนาโน่จึงเป็นมือดีที่คุณวางใจในราคาที่คุณจ่ายได้เสมอ”





                                            นาฬิกาข้อมือไอพอดนาโน




Scott Wilson ผู้ก่อตั้ง Minimal บริษัทรับออกแบบแห่งเมืองชิคาโก้ ได้สร้างสรรค์อุปกรณ์ที่เปลี่ยนไอพอดนาโนให้กลายเป็นนาฬิการะบบสัมผัส TikTok เป็นสายรัดข้อมือ ที่มีช่องให้เสียบไอพอดนาโนของคุณเข้าไป ส่วน LunaTik เป็นรุ่นที่แพงกว่า ถูกออกแบบมาให้ล็อกได้แน่นหนากว่า สำหรับผู้ที่จะใช้เป็นนาฬิกาอย่างถาวรเลย
Wilson อธิบายถึงแรงบันดาลใจในการออกแบบว่า “เขามีความคิดที่จะใช้ไอพอดนาโนเป็นนาฬิกาข้อมือตั้งแต่ตอนที่ได้เห็นสินค้า เปิดตัวแล้ว แต่เขาต้องการสร้างผลงานที่ออกแบบมาอย่างดี ไม่ใช่แค่ติดไปบนสายรัดข้อมือราคาถูกๆแค่นั้น




สายนาฬิกาทั้งสองรุ่นทำจากยางซิลิโคน ตัวล็อกทำจากสแตนเลส ไม่เป็นสนิม อุปกรณ์ชิ้นนี้เปลี่ยนไอพอดนาโนของคุณให้กลายเป็นนาฬิการะบบสัมผัส พร้องฟังชั่นต่างๆครบครัน ไม่ว่าจะเป็น เครื่องเล่น MP3 วิทยุ ที่เก็บรูปภาพ เครื่องวัดระยะในขนาดกระทัดรัด

                                                      ประวัติไอโฟน




https://encrypted-tbn2.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcTxsg443xwbNJup4pyF2eqi-vQ2m7vUHeGJz1EGZ009aoB2Bme3_w




ไอโฟน (อังกฤษ: iPhone) เป็น โทรศัพท์มือถือที่มีความสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตและมัลติมีเดีย ผลิตและจำหน่ายโดยบริษัทแอปเปิล โดยการทำงานของไอโฟนสามารถใช้งานส่งอีเมล ใช้เป็นโทรศัพท์เคลื่อนที่ ส่งเอสเอ็มเอส ท่องอินเทอร์เน็ตผ่านทางซอฟต์แวร์ซาฟารี ค้นหาแผนที่ ฟังเพลง และความสามารถอื่น โดยมีอุปกรณ์หลักประกอบด้วย Wi-Fi (802.11b/g) บลูทูธ 2.0 และกล้องถ่ายภาพ 2.0-megapixel ไอโฟนรุ่นแรกมีลักษณะ 2.5G quad band GSM และ EDGE และรุ่นที่สองใช้ UMTS และ HSDPA

    แอปเปิลได้เปิดเผยไอโฟนรุ่นแรกโดย สตีฟ จอบส์ ในงานแม็คเวิลด์ วันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2550 และวางจำหน่ายครั้งแรกในสหรัฐอเมริกาวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2550 ไอโฟนได้ชื่อว่าเป็นสิ่งประดิษฐ์ยอดเยี่ยมประจำปีจากนิตยสารไทม์ ประจำปี 2550 โดยมีรุ่นถัดมาคือ ไอโฟน 3G และ ไอโฟน 3GS และไอโฟน 4 ได้เปิดตัวในวันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2553 ไอโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดในปัจจุบันคือ iPhone 4S ซึ่งมีเป็นรุ่นที่สมบูรณ์ที่สุดในขณะนี้

    การทำงานของไอโฟน
    การทำงานของโทรศัพท์ไอโฟนนี้จะแตกต่างจากโทรศัพท์มือถืออื่น โดยไอโฟนจะไม่มีปุ่มสำหรับกดหมายเลขโทรศัพท์ โดยการทำงานทั้งหมดจะทำงานผ่านหน้าจอโดยการสัมผัสมัลติทัชผ่านคำสั่งต่างๆ โดยมีระบบปฏิบัติการหลัก iOS และมีระบบเซ็นเซอร์ในการรับรู้สภาพของเครื่องเพื่อกำหนดการแสดงผลของจอภาพ เช่นหากวางเครื่องในแนวตั้งระบบก็จะปรับให้แสดงผลในแนวตั้ง หากวางในแนวนอนระบบก็จะแสดงผลในแนวนอน



  การวางจำหน่าย
     ไอโฟนเริ่มมีวางจำหน่ายครั้งแรกเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ในวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2550 โดยร่วมมือกับเครือข่ายเอทีแอนด์ทีไวร์เลสส์ (ในขณะนั้นในชื่อ ซิงกิวลาร์ไวร์เลสส์) โดยก่อนวันจำหน่ายร้านแอปเปิลได้ปิดร้านในช่วง 14 นาฬิกาเพื่อเตรียมตัวขายไอโฟนในเวลา 18 นาฬิกาตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งมีผู้ใช้รอคิวเข้าซื้อเป็นจำนวนมาก โดยทางแอปเปิลขายไอโฟนได้ 270,000 เครื่อง ในช่วง 30 ชั่วโมงแรกที่เปิดจำหน่าย โดยในปัจจุบันไอโฟนรุ่นแรกมีวางจำหน่ายในหกประเทศได้แก่ ไอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เยอรมนี ออสเตรีย และสหรัฐอเมริกา

     โดยในวันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2551 ไอโฟนรุ่นใหม่ หรือที่รู้จักในชื่อ ไอโฟน 3G จะมีการวางจำหน่ายใน 22 ประเทศ ซึ่งรวมถึง 6 ประเทศที่มีวางจำหน่ายแล้ว และหลังจากนั้นจะมีวางจำหน่ายเพิ่มขึ้นอีกใน 48 ประเทศทั่วโลก รวมเป็นทั้งหมด 70 ประเทศ โดยในอาเชียนจะมีประเทศสิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ที่มีการจำหน่ายไอโฟนอย่างเป็นทางการ โดยในสหรัฐอเมริกานั้น ผู้ซื้อไอโฟนรุ่นใหม่จำเป็นต้องจดสัญญากับเอทีแอนด์ทีเป็นระยะเวลาสองปี

      ประเทศไทยเริ่มมีการวางจำหน่ายไอโฟน 3G ในวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2552 โดยทรูมูฟ เป็นผู้ถือลิขสิทธิ์การจำหน่ายเป็นรายแรกในประเทศไทย และมีงานเปิดตัวระหว่างวันที่ 16-18 มกราคม พ.ศ. 2552 ณ รอยัลพารากอนฮอลล์ สยามพารากอน และดีแทคเป็นรายที่สองที่ได้สิทธิ์การจัดจำหน่าย โดยมีการเปิดตัวพร้อมจำหน่ายเครื่องวันแรก เมื่อวันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2553 ณ ลานพาร์กพารากอน สยามพารากอนและในวันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2553 เวลา 0.00 น. ไอโฟน 4 ได้เปิดตัวในประเทศไทย โดยทรูมูฟ, ดีแทค และ AIS เป็นผู้ถือลิขสิทธิ์การจำหน่ายในประเทศไทย









ไอโฟน 3จี (iPhone 3G)
    ไอโฟน 3จี (iPhone 3G) คือสมาร์ตโฟนระบบจอสัมผัสที่พัฒนาโดย บริษัทแอปเปิล ซึ่งเป็นรุ่นที่สองของ ไอโฟน ต่อมาจากรุ่น ไอโฟน รุ่นแรกถูกประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2551 ในงาน WWDDC 2008 ที่ Moscone Center ในเมืองSan Francisco มี 3G ที่คล้ายกันมากกับรุ่นก่อนที่มีเหมือนกันกล้อง 2 MP และการสนับสนุนสำหรับ บันทึกวิดีโอ ไม่มีและประสิทธิภาพการทำงานของมันถูก จำกัด โดยเดียวกันขนาด 128 เมกะไบต์ eDRAM หน่วยความจำแต่ 3G ที่โดดเด่นการปรับปรุงหลายต้นฉบับ ที่สนับสนุน GPS แบบช่วยเหลือ, ข้อมูล 3G และ Tri - band UMTS/HSDPA

     การทำงานของ iPhone 3G มีระบบปฏิบัติการของ Apple IOS ของระบบปฏิบัติการเดียวกับที่ใช้เมื่อก่อนหน้า iPhones , iPad, Apple TV, และ iPod Touch จะมีการควบคุมเป็นหลักโดยปลายนิ้วของผู้ใช้ในที่ สัมผัสหลาย แสดงซึ่งมีความไวในการติดต่อกับปลายนิ้ว
iPhone 3G ไม่ได้รับการปรับปรุงซอฟต์แวร์จาก Apple ในวันที่ 11 มีนาคม 2011 ซึ่งเป็นวัน iOS 4.3 ถูกเปิดตัวออกมา แต่ก็ไม่มีการสนับสนุน

     ประวัติ
     ในวันที่ 11 กรกฎาคม ค.ศ. 2008 Apple ได้เปิดตัว iPhone 3G ใน 22 ประเทศ รวมทั้งเดิมหก ในรุ่น 8GB และ 16GB, กับรุ่นความจุที่มีขนาดใหญ่ที่มีตัวเลือกของการอยู่ในสีดำหรือสีขาว
      เมื่อ iPhone 3GS ถูกปล่อยออกมาได้ 1 ปีภายหลังราคาของ iPhone 3G ถูกตัดในช่วงครึ่งปีและได้ทำรูปแบบการงบประมาณของ iPhone โดยราคาของ iPhone 3G อยู่ในราคา $ 99 อยู่ในสีดำเท่านั้น และมาพร้อมกับ 8GB ของการจัดเก็บ พร้อมกับการแก้ไขนี้เป็น iPhone OS 3.0 ในวันที่ 7 มิถุนายน 2010 iPhone 3G ถูกยกเลิกและแทนที่ด้วย 8 GB iPhone 3GS ขายในราคาเดียวกันด้วยราคา $ 99

     ซอฟต์แวร์
     iPhone 3G ได้เข้ามาโหลดไว้กับรุ่นล่าสุดของ iPhone OS ทั้ง 2 เพื่อให้มีการปรับปรุงใหม่ล่าสุดในซอฟต์แวร์และการที่จะต่อสู้กับความพยายาม ของการ jailbreaking กว่าปีที่ iPhone 3G ของได้รับการสนับสนุนโดย Apple ที่มีการปรับปรุงซอฟต์แวร์ ซ้ำที่สำคัญของซอฟต์แวร์ที่มักจะเปิดตัวออกมาทุกปี

     เมื่อเปิดตัวในเดือนกรกฎาคมปี 2008 ของ iPhone 3G มาพร้อมโหลดไว้กับ iPhone OS 2.0 ซึ่งเปิดตัวใน App Store สนับสนุนโดย Microsoft Exchange ActiveSync, บริการ MobileMe ของ Apple และผลักดันการสนับสนุนทางอีเมลพร้อมด้วยคุณสมบัติใหม่อื่น ๆ และแก้ไขข้อผิดพลาดเช่นกัน

     ในเดือนมิถุนายน 2009 iPhone 3G ของ iPhone ได้รับการปรับปรุงซอฟแวร์ระบบปฏิบัติการ 3.0 ที่นำรอคอยมานานคุณลักษณะ MMS คัดลอกและวางสนับสนุนภูมิสำหรับใช้งานมากขึ้นการสนับสนุนสเตอริโอ Bluetooth, และการปรับปรุงอื่น ๆ เช่นกัน
ในเดือนมิถุนายน 2010 เจ้าของ iPhone 3G ถูกออก iOS 4.0 การปรับปรุงซอฟต์แวร์ ซึ่งแตกต่างจากผู้สืบทอดของ iPhone 3GS ที่จะไม่ได้รับ multitasking ภาพพื้นหลังหน้าจอที่บ้านหรือการสนับสนุนแป้นพิมพ์ Bluetooth แต่ก็ยังคงมีคุณสมบัติแบบครบวงจรของกล่องจดหมาย, โฟลเดอร์, รายการเพลงที่สร้างระหว่างการปรับปรุงอื่น ๆ ใน Ios 4 แต่ยังคงแม้จะมีจำนวนของคุณสมบัติใหม่ที่นำมาปรับปรุงนั้นจะถูกวิพากษ์ วิจารณ์อย่างกว้างขวางสำหรับการทำงานที่ช้าในบนอุปกรณ์

     แต่อย่างไรก็ตามการปรับปรุงเพื่อพัฒนาไปยัง iOS 4.1 ได้เปิดตัวและเปิดตัวเมื่อเดือนกันยายน 2010 ซึ่งการปรับปรุงประสิทธิภาพของอุปกรณ์ที่อยู่ภายใต้ iOS 4 แต่แตกต่างจากอุปกรณ์อื่น ๆ iOS แม้ว่าจะไม่ได้รับการประยุกต์ใช้ศูนย์เกมส์

     ในวันที่ 22 พฤศจิกายน ค.ศ. 2010 iPhone 3G ได้รับการปรับปรุงเป็น iOS 4.2 การปรับปรุงซอฟต์แวร์ซึ่งรวมถึงคุณสมบัติใหม่ เช่น YouTube การออกเสียงลงคะแนน และการแก้ไขการรักษาความปลอดภัย แต่อย่างไรก็ตาม iPhone 3G ไม่ได้รับคุณสมบัติมากมายรวมทั้ง AirPlay ตัวเลือกเพิ่มเติมในถาดแบบมัลติทาสก์และค้นหาข้อความซาฟารี

     ในวันที่ 12 มกราคม ค.ศ. 2011 iOS 4.3 ได้รับการปรับปรุงซอฟต์แวร์เบต้า 1 ออกมาให้นักพัฒนา แต่ยังไม่มีการการเชื่อมโยงดาวน์โหลด iPhone 3G จะไม่สนับสนุนโดย Apple ในการปรับปรุงซอฟต์แวร์
ในวันที่ 9 มีนาคม ค.ศ. 2011 การปรับปรุงของ IOS ซอฟต์แวร์ 4.3 ได้ประกาศอย่างเป็นทางการซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการปรับปรุงซอฟต์แวร์ iOS ออกจากการสนับสนุนของ iPhone 3G





     ไอโฟน 3จีเอส (iPhone 3GS)

     ไอโฟน 3จีเอส (iPhone 3GS) คือสมาร์ตโฟนระบบจอสัมผัสที่พัฒนาโดย บริษัทแอปเปิล ซึ่งเป็นรุ่นที่สามของ ไอโฟน ต่อมาจากรุ่น ไอโฟน 3G ถูกประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2552 ในงาน WWDDC 2009 และขายครั้งแรกวันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2552 ในประเทศออสเตรเลียและญี่ปุ่นวางจำหน่ายในวันที่ 26 มิถุนายนและต่างประเทศในเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม พ.ศ. 2552
ไอโฟน 3จีเอส ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการของ Apple Ios เป็นถูกนำมาใช้ใน iPad และ iPod touch จะมีการควบคุมเป็นหลักโดยปลายนิ้วของผู้ใช้ในจอแสดงผลแบบมัลติทัช ไอโฟน 3จีเอส จะนำหน้าด้วย iPhone 3G และประสบความสำเร็จโดย iPhone 4




     ไอโฟน 4  (iPhone 4)

    ไอโฟน 4 (อังกฤษ: iPhone 4) คือสมาร์ตโฟนระบบจอสัมผัสที่พัฒนาโดย บริษัทแอปเปิล ซึ่งเป็นรุ่นที่สี่ของ ไอโฟน ต่อมาจากรุ่น ไอโฟน 3จีเอส ถูกออกแบบเฉพาะสำหรับการใช้งานด้านการโทรศัพท์โดยมีสัญญาณภาพ (ในชื่อ เฟซไทม์) การอ่านหนังสืออีบุค, การดูวิดิโอ, ฟังเพลง, เล่นเกม และอินเทอร์เน็ต ถูกประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2553 ในงาน WWDDC 2010 และขายครั้งแรกวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2553 ในอเมริกา,อังกฤษ และอีกในหลายประเทศ โดยในประเทศไทยนั้นมีการขายครั้งแรกอย่างเป็นทางการใน วันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2553 โดยสามบริษัทใหญ่เป็นผู้จำหน่ายคือ เอไอเอส ,ดีแทค และทรูมูฟ

     ไอโฟน 4 ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการไอโอเอส (iOS) ซึ่งเป็นระบบเดียวกับที่ใช้ในไอโฟนรุ่นก่อนหน้า รวมไปถึงไอแพดและไอพอดทัช 
     การทำงานหลักควบคุมโดยใช้ปลายนิ้วสัมผัสข้อแตกต่างระหว่างไอโฟน 4 และไอโฟนรุ่นก่อนหน้าได้แก่ การออกแบบโฉมใหม่ ที่มีการหุ้มขอบด้วยสเตนเลนสตีลไร้ฉนวนซึ่งทำหน้าที่เป็นเสาอากาศของเครื่อง ตัวเครื่องจะอยู่กึ่งกลางระว่างกระจกอลูมิโนซิลิเกตชนิดพิเศษที่เพิ่มความ แข็งแรงวางไว้สองด้านหน้าหลัง ภายในเครื่องมีซีพียู แอปเปิล A4 พร้อม ram 512 MB ของ eDRAM ซึ่งมีความเร็วเป็นสองเท่าของรุ่นก่อนหน้า และเร็วเป็นสี่เท่าของไอโฟนรุ่นแรกสุด หน้าจอขอไอโฟน 4 มีขนาด 89 มม. (3.5 นิ้ว) โดยใช้แอลอีดีแบล็กลิตขนาด แสดงผลด้วยความละเอียด 960×640 พิกเซลซึ่งชื่อการค้าว่าว่า เรตินาดิสเพลย์ (Retina Display)
     จุดเด่นที่น่าสนใจ คือ Facetime การสนทนาพร้อมส่งภาพจากกล้องด้านหน้า หรือด้านหลัง ไปให้คู่สนทนาได้ชมแบบสดๆ หรือเรียกว่าวีดีโอคอลล์ เพียงแต่ Facetime ไม่ต้องอาศัยเครือข่าย 3G แต่อาศัย Wi-Fi แทน วิธีการใช้งานก็ไม่ยุ่งยาก เพียงเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi ทิ้งไว้ จากนั้นทำการโทรออกไปหาผู้รับตามปกติ (ผู้รับสายจะต้องใช้ iPhone 4 มีเชื่อมต่อ Wi-Fi เช่นกัน) ระหว่างรอรับสายให้กดปุ่ม Speaker เพื่อสนทนาผ่านลำโพง และ เมื่อมีผู้รับสายให้กดปุ่ม Facetime เพื่อเปิดใช้งานกล้อง โดยผู้ใช้ สามารถสลับการใช้งานได้ทั้งกล้องด้านหน้าและด้านหลัง

     ประโยชน์ของ Facetime นอกจากการสนทนาแบบเห็นหน้า นั่นคือการสื่อสารที่มากกว่าคำพูด เพราะผู้ใช้สามารถรับรูปถึงอารมณ์ของคู่สนทนามากกว่าฟังแต่เสียง อีกทั้งการแสดงภาพเคลื่อนไหวภาพยังทำได้ราบลื่น (ขึ้นอยู่กับความเร็วของสัญญาณ Wi-Fi ในเวลาใช้งาน) ที่สำคัญผู้ใช้ไม่ต้องจ่ายค่าบริการเพิ่ม (นอกจากค่าบริการอินเตอร์เน็ต Wi-Fi)
ถ้าให้เทียบกับการสนทนารูปแบบวีดีโอคอลล์ ผ่านเครือข่าย 3G ต้องยอมรับว่า Facetime เหนือกว่า ทั้งเรื่องสัญญาณ Wi-Fi ที่ครอบคลุมมากกว่า เครือข่าย 3G ค่าบริการที่ถูกกว่า และ ความเร็วในการแสดงผลระบบปฏิบัติการรุ่นล่าสุดคือ iOS 5.0(เริ่ม 12 ตุลาคม พ.ศ. 2554)




      ไอโฟน 4เอส (iPhone 4S)

      ไอโฟน 4เอส (อังกฤษ: iPhone 4S) คือสมาร์ตโฟนระบบจอสัมผัสที่พัฒนาโดย บริษัทแอปเปิล ซึ่งเป็นรุ่นที่ห้าของ ไอโฟน ต่อมาจากรุ่น ไอโฟน 4 โดยเปิดตัวเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2554 ในงาน Let's talk iPhone ณ สำนักงานใหญ่แอปเปิล เมืองคูเปอร์ทิโน่ เป็นรุ่นที่พัฒนาต่อยอดมาจาก iPhone 4 ซึ่งภายนอกมีลักษณะไม่แตกต่างกันมากนัก โดยรุ่นนี้มีการแก้ไขปัญหาสัญญาณตกที่เกิดกับ ไอโฟน 4 ในส่วนของระบบประมวลผลได้เปลี่ยนไปใช้ชิพ Apple A5 แบบเดียวกับ ไอแพด 2 และมีการเพิ่มความจุในรุ่น 64GB เข้ามา






วิธีตรวจสอบ iphone 5 เช็คสภาพเครื่องก่อนออกจากศูนย์/ร้าน + การเลือกซื้อไอโฟน 5 มือ 1,2


สำหรับ iPhone 5 ที่เริ่มวางจำหน่ายและเปิด จอง iPhone 5 ในประเทศไทย นั้นหลายคนคงจะได้เริ่มเป็นเจ้าของกันแล้ว และสำหรับวันนี้ทีมงานจะมาแนะนำถึงวิธีการเลือกซื้อ พร้อมตรวจสอบสภาพ iPhone 5 ก่อนที่จะออกจากศูนย์บริการ Truemove H, Ais, DTAC หรือออกจากร้าน ใช้ตรวจสอบได้ทั้งเครื่องมือ 1 และ มือ 2 เลยละครับ

1. ตรวจสอบสภาพกล่อง : กล่องของ iPhone 5 จะต้องปิดสนิทไม่มีรอยแกะ ซีลพลาสติกอยู่ครบทุกด้าน กล่องไม่บุบไม่มีฉีกขาด ** ในกรณีซื้อเครื่องหิ้วหรือ ร้านด้านนอกเช่น MBK ให้ดูรายละเอียดอื่นๆ ต่อไปเพราะว่าเดี๋ยวนี้มีเครื่องซีลเนียนเหมือนออกจากศูนย์เลย

2. ตรวจสอบอุปกรณ์เสริม : ทำการตรวจสอบอุปกรณ์เสริมภายในกล่อง โดย iPhone 5 จะมีอุปกรณ์เสริมตามรายการดังนี้ ** หากมีสิ่งหนึ่งสิ่งใดขนาดหายไปให้เปลี่ยนตัวใหม่ทันที : http://www.itallnews.com
  -คู่มือเอกสารการใช้งาน iPhone 5
  -ที่จิ้มถาดซิมการ์ด (ทำจาก Liquid Metal)
  -หูฟัง EarPods (มาพร้อมแพ็คเกจและฝากปิดสนิท)
  -Adapter อแดปเตอร์ที่ใช้งานกับประเทศไทย (ไม่ใช่ 3 ขา)
  -USB Lightning Cable สายดาต้าซิงค์ แบบ 8-Pin


3. ตรวจสอบสภาพภายนอก :
  -เขย่า : การเขย่า iPhone 5 จะต้องไม่มีเสียงใดๆ เลย ตัวเครื่องและภายในจะต้องแน่นสนิทไม่มีเสียง ก๊อกแก๊ก กิ๊กๆ กลุ๊กๆ ใดๆ     ทั้งสิ้น
  -รอยขีดข่วน : ถึงแม้ว่า iPhone 5 สีดำจะเกิดรอยง่ายมากเนื่องจากวัสดุในการผลิต (Anodized aluminium) แต่ถึงแม้จะเป็นรอยง่ายขนาดไหนก็ต้องห้ามเป็นตั้งแต่ออกมาจากกล่องนะครับ (สีขาวก็ใช่ว่าจะไม่มี ตรวจสอบให้ดีครับ) หากมีกันลอยให้ลอกออกเพื่อดูลอยขนแมวด้วยนะครับ บางคนมาลอกที่บ้านแล้วเจอเพียบเลย
  -ขอบตัวเครื่อง : ตัวเครื่องต้องแนบสนิทไม่มีรอแตก หรือรอยแยก (เปิดอ้า) ไม่มีรอยร้าว ที่สำคัญต้องไม่มีปัญหาแสงรั่ว (Light Leak) จากของทั้ง 4 ด้าน สำคัญตรงส่วนบนปุ่ม Home ที่เจอปัยหามากที่สุดในล็อตแรก
  -ปุ่ม : ปุ่มบนเครื่อง iPhone 5 ต้องแนบสนิทกดปุ๊บ ติดปั๊บ ไม่ติดมีขัด ไม่มีหลวม เราต้องตรวจสอบปุ่มทั้งหมด 4 จุดได้แก่
     *Sleep/Wake Button ปุ่มปิดเปิดเครื่อง กดปิดต้องล็อคหน้าจอ กดติดทุกครั้งห้ามหลวม
     *Ring/Silent switch ปุ่มปิดเสียง ทดสอบเลยนะครับต้องปิดได้จริง
     *Volume Buttons ปุ่มปรับระดับเสียง กด + เป็น + / กด – เป็น – ห้ามสลับกัน
     *Home Button ปุ่มโฮมสำคัญเลยกด 10 ครั้ง ต้องติด 10 ครั้ง
  -หน้าจอ : สำหรับหน้าจอนั้นเคยมีปัญหาใน iPhone 4S เรื่องฝุ่น (กระจกด้านใน) ไม่สามารถเช็ดออกได้ ใน iPhone 5 ก็ต้องดูเช่นกัน รวมไปถึงรอยขีดข่วนบนหน้าจอด้วย และก็ไม่มีบุบหรือบุ๋มลงไป
  -กล้อง : ดูภายนอกแล้วต้องไม่มีรอยขีดข่วนบนเลนส์ และแนบสนิด ตรวจสอบทั้งกล้องหน้าและหลังเลยนะครับ ดูเลยไปถึง Flash ด้วยดวงไฟต้องไม่มีรอยเช่นกัน
  -หูฟัง Earpods : หูฟังรุ่นใหม่ที่ทางแอปเปิ้ลออกแบบมารูปร่างหน้าตาจะเป็นแบบตามภาพนะครับ ใครได้รุ่นเก่าอย่างรับเครื่องมาเด็ดขาด เมื่อได้มาให้แกะออกมาทดสอบด้วยนะครับอย่างทดสอบแต่ตัวเครื่อง ข้อต่อสายต้องแน่น ปุ่มปรับระดับเสียงต้องใช้งานได้ (ไม่สลับด้านกัน) ไมค์ต้องใช้งานได้เป็นอย่างดี (ทดสอบโทรออกพูดคุยด้วยนะครับ)
  -คีย์บอร์ด : หำหรับ iPhone 5 มีเรื่องที่จะต้องตรวจสอบเพิ่มนิดหน่อยคือ Keyboard เกิดปัญหาเส้นขีดหรือที่เรียกว่า Keyboard Glitches หากเจอแบบนี้เปลี่ยนสถานเดียวครับ

4. ตรวจสอบแถบความชื้น : ถึงจะเป็น iPhone 5 เครื่องศูนย์อย่าง Truemove H , AIS , DTAC , iStudio ก็ต้องตรวจสอบเรื่องความชื้นให้ดี หากออกมาจากสูนย์แล้วมันจะคุยกันยาก เพราะเค้าไม่รับประกันเลย (หลุดประกัน) และสำหรับแถบวัดความชื้น iPhone 5 ได้เปลี่ยนตำแหน่งไปอยู่ในช่องถาดซิมนะครับ ** หากมีสีแดงขึ้นตามภาพให้เปลี่ยนเครื่องนะครับ

5. Model – Serial No – IMEI iPhone 5 : ตรวจสอบ รหัสเครื่อง (Serial No), อีมี่ (IMEI), เลขโมเดล Model ให้ตรงกันทั้งบนกล่องและบนตัวเครื่อง เลขทั้ง 3 ชุดต้องตรงกันนะครับหากไม่ตรงกันนี่เปลี่ยนสถานเดียว หรือซื้อจาก MBK หรือร้านด้านนอกก็ขอไม่รับเครื่องและเรียกเงินคืนครับ วิธีการดูค่าดังกล่าวบน iPhone 5 ให้เลือก General > About ครับ

6. ตรวจสอบประกันเครื่อง iPhone 5 : การตรวจสอบประกันนั้น สำคัญมากหากเป็นการซื้อเครื่องมือ 2 เพราะเป็นปัจจัยในการกำหนดราคาด้วย และหากเป็นเครื่องศูนย์ก็ต้องดูเช่นกันครับ เครื่องใหม่จริงๆ ไม่ผ่านมือใครต้องยังไม่มีการเปิดประกัน (ลงทะเบียน) เพื่อความมันใจระหว่างทดสอบเครื่องให้เราทำการลงทะเบียนเลยครับ การตรวจสอบประกันให้เข้าไปที่ https://selfsolve.apple.com/agreementWarrantyDynamic.do หรือ http://goo.gl/ylbl จากนั้นนำ Serial Number ที่ได้จากข้อ 4. ไปใส่แล้วกด Continue ก็จะดูวันสิ้นสุดประกันได้แล้วครับ

7. ตรวจสอบ Hot Pixel, Dead Pixel : ตรวจสอบหาจุดบอดในหน้าจอหรือไม่ โดยเปิด Browser Safari ใน iPhone 5 (ต่อ internet ด้วยนะ) และเข้าไปที่ http://iphonedpt.awardspace.com จะพบปุ่มสีบนหน้าจอทั้งหมด 5 สี ดำ น้ำเงิน แดง เขียว เหลือง ดูให้ครงทุดสีนะครับอย่างให้มี จุดดำ หรือ จุดขาว อยู่บนหน้าจอแม้แต่จุดเดียว : www.itallnews.com

8. Gyroscope : ตรวจสอบเซ็นเซอร์โดยทำการติดตั้งแอพพลิเคชั่น Gyroscope (Free) จาก App Store จากนั้นเปิดแอปขึ้นมาทำการทดสอบหมุนหน้าจอไปมาซ้าย-ขวา ขึ้น-ลง ดูว่าทำงานปกติหรือไม่ หรือใครขี้เกียจติดตั้งแอปก็ลองหมุนหน้าจอแนวตั้ง แนวนอนดูว่าหน้าจอตัดการทำงานตามเราหมุนหรือไม่ (อันนี้เป็นการทดสอบ Accelerometer ไปในตัว)

9. ซิมการ์ด SIM : ก่อนอื่นเลยทดสอบถอดซิมเข้าออกดูซัก 3 ครั้งดูว่าจับสัญญาณได้ดีทุกครั้งหรือไม่ โดยจะมีรูปแบบปัญหาดังนี้ (ซิมการ์ดต้องชัวร์ว่าไม่มีปัญหา)
NO Sim Card Installed หาซิมไม่เจอ หากใส่ซิมแล้วยังขึ้นคำนี้อยู่ให้ลองดูเครื่องใหม่ครับ
Searching : No Service หาสัญญาณไม่เจอ ไม่มีสัญญาณ หรือจับได้ขีดเดียว อย่าคิดว่าไม่มีปัญหาครับลองตรวจสอบกับอีกเครื่องนึงดูก่อนครับ หรือเปลี่ยนเครื่องไปเลย

10. โทรศัพท์เข้า-ออก & : ทดสอบโทรออกและรับสายเข้า พูดคุยสนทนาดูว่าเสียงดังฟังชัดไหม

11. 3G/Wi-Fi & Bluetooth : ทดสอบ 3G ดูว่าสามารถจับสัญญาณได้หรือป่าว รวมไปถึงการจับสัญญาณ Wi-Fi ด้วยอย่าให้เจออาการติดๆ ดับๆ หรือสัญญาณหาย และอย่างลืมทดสอบ Bluetooth ด้วยละครับ

12. ระบบเสียง : ให้ทำการทดสอบลำโพงของ iPhone 5 ว่าเสียงออกมาเป็นอย่างไรบ้าง ทดสอบเปิดเพลงหรือ Youtube เลยครับดูว่าเสียงโอเคใหม่ทดสอบปุ่มปรับระดับเสียงไปในตัวด้วย

13. Personal Hotspot : ตรวจสอบดูการกระจ่ายสัญญาณและการใช้งานว่าฟีเจอร์นี้ทำงานได้ปกติไหมเพราะ เมืองนอกเคยเจอปัญหาว่าใช้งานไม่ได้กับเครือข่ายในบางประเทศ ลองแชร์อินเตอร์เน็ต 3G ไปให้มือถืออีกเครื่องนึงดูก็ได้  ดูวิธีเปิดใช้งาน…คลิ๊ก

   เอาละครับสำหรับการตรวจสอบสภาพเครื่อง iPhone 5 (ไอโฟน 5) ก่อนซื้อเบื้องต้นแล้ว 13 หัวข้อคงครอบคลุมการตรวจสอบพื้นฐานทั้งหมดแล้วละครับ หากจะให้แนะนำอีกนิดก็คงจะเป็นการเตรียมพร้อม สมัคร Apple ID เอาไว้ก่อนจะได้ไม่ต้องมัวไปสมัครเอาหน้างานไปถึงจะได้ใส่ ID และทำสอบเครื่องพร้อมทดสอบแอพพลิเคชั่นไปพร้อมกันเลยละครับ  อ่าแล้วก็ก่อนไปรับเครื่องควรศึกษา คู่มือ iPhone 5 iOS6 ไปด้วยนะครับไปถึงจะได้ทดสอบกันคล่องหน่อย



















                                                                  วีดีโอ เกี่ยวกับ ไอโฟน